GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "Mafia II: Definitive Edition"
10 เกมที่ให้เราเล่นเป็นตัวร้าย
ตัวร้ายถือว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เราจะต้องเจอในทุก ๆ เกม เพื่อเป็นจุดมุ่งหมายของการเล่น แต่มีหลาย ๆ เกมแทนที่จะให้เราเป็นตัวเอก ดันให้เราเล่นเป็นตัวผู้ร้ายสะงั้น ซึ่งก็ให้ความรู้สึกและอารมณ์ที่แตกต่างอย่างมาก วันนี้พวกเรา GameFever TH จะขอแนะนำ 10 เกมที่ให้เราได้เล่นเป็นตัวร้าย 1.Series GTA Grand Theft Auto หรือ GTA หนึ่งในเกมตระกูลที่จะให้เรารับบทเป็นอาชกรระดับพระกาฬ ที่ต้องไต่เต้าตัวเองขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของห่วงโซ่นี้ โดยเกมนี้จะให้เราอิสระกับเราในการทำอะไรก็ได้ที่ชีวิตจริงคงไม่มีใครทำกัน พร้อมกับโลกในเกมอันแสนกว้างใหญ่ที่จะทำให้คุณติดหนึบกับเกมนี้ไปหลายวัน 2.Series Mafia หากซีรีส์ GTA เป็นแนวอาชกรแบบสมัยนิยม Mafia จะเป็นกลุ่มอาชกรที่เน้นในเรื่องของศักดิ์ศรีและความเป็นครอบครัวเดียวกันมากกว่า ตัวเกมมีเนื้อเรื่องที่ยอดเยี่ยม มีบรรยากาศในเกมที่ยากจะหาได้จากที่อื่น นับว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่สายอาชญากรรมต้องลองเล่น 3.Plague Inc. หนึ่งในเกมที่เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันมาก ๆ กับ Plague Inc. เกมที่จะให้เรารับบทเป็นเชื้อโรคที่จะต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา เพื่อที่จะแพร่กระจายเชื้อไปทั่วโลกและสังหารเหล่ามนุษย์ให้สิ้นเผ่าพันธ์ุ ตัวเกมเป็นเกมแนววางแผนที่เราจะต้องบริหารทรัพยากรต่าง ๆ ให้ดี พร้อมกับการเลือกการอัปเกรดที่เหมาะสม ที่หากเลือกอัปผิดอาจจะทำให้แพ้ได้เลย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมน่าเล่นเลยทีเดียว 4.Shadow Of The Colossus Shadow Of The Colossus แม้ว่าจะเป็นเกมอายุเกือบ ๆ 12 ปีแล้ว แต่ว่าคุณค่าของเกมนี้ไม่ได้ลดลงเลย ตัวเกมจะให้เรารับบทเป็นคน ๆ หนึ่งที่ต้องออกตามล่าเหล่าผู้พิทักษ์ เพื่อที่จะชุบชีวิตบุคคลอันเป็นที่รักของเขากลับมา ไม่ว่าเหล่าผู้พิทักษ์คนนั้นจะผู้บริสุทธิ์ขนาดไหน นอกจากนี้ตัวเกมยังรองรับภาษาไทยอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งเกม Masterpiece มาก ๆ 5.Destroy all Human สำหรับเกมนี้ก็ตามชื่อของเกมเลยครับผม Destroy all Human จะให้เรารับบทเป็นเอเลี่ยนนามว่า Cryptosporidium ที่ต้องออกไปตะลุยกับเหล่ามนุษย์ จนกว่าจะยึดดวงนี้มาเป็นของเอเลี่ยนให้ได้ แม้ว่าจะต้องกำจัดเหล่ามนุษย์ทุกตัวก็ตาม 6.Series Saints Row Saints Row คือแกงค์อาชญากรรมสุดเกรียนแห่งวงการเกม ที่พวกเขาไม่เน้นเรื่องของความสมจริงแต่เน้นในเรื่องของความฮาล้วน ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย อาวุธ เนื้อเรื่องทำออกมาได้อย่างฮา ที่สำคัญตัวเกมยังมีการลดราคาบ่อย ๆ อีกด้วย เป็นไปได้ก็แนะนำให้หามาลองเล่น 7.MANHUNT หนึ่งในเกมเนื้อหาสุดรุนแรงที่ถูกแบนไปแล้วหลาย ๆ ประเทศ MANHUNT ที่จะให้เราเล่นเป็น James Earl Cash ที่ต้องออกไปไล่ฆ่าผู้คน ด้วยวิธีการต่าง ๆ อันสุดแสนจะอมหิตที่ใครขวัญอ่อนควรที่จะเลี่ยงเกมนี้(รวมถึงน้อง ๆ ที่อายุไม่เกิน 18 ปีด้วยเช่นกัน) โดยปัจจุบันตัวเกมวางจำหน่ายอยู่ใน Steam ใครสนใจก็ลองหามากันได้ 8.Series Hitman Hitman โล้นซ่านักฆ่าหัวบาร์โค้ด หนึ่งในเกมที่ได้รับความนิยมมากจากเหล่าเกมเมอร์ทั่วโลก โดยจุดเด่นของเกมคือการที่จะให้เราสามารถออกแบบวิธีการสังหารเป้าหมายได้อย่างอิสระ ตามที่ความคิดสร้างสรรค์ของเราจะนำทาง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในซีรีส์เกมที่คุณควรหามาลอง 9.Dead by Daylight Dead by Daylight เกมนี้หลาย ๆ คนน่าจะเคยเล่นกันมาบ้างแล้ว โดยในเกมนี้จะให้เราแบ่งออกเป็นสองฝ่ายคือ ฝ่ายผู้รอดชีวิตและฝ่ายฆาตกร ที่ทั้งสองฝ่ายจะมีวัตถุประสงค์ต่างกัน ซึ่งหลาย ๆ คนคงเดาได้ใช่ไหมว่าใครเป็นตัวร้าย ฝ่ายฆาตกรนั่นเอง ที่เล่นได้สนุกมาก ๆ โดยเฉพาะตอนที่สามารถสังหารผู้รอดชีวิตได้ทุกคนที่ฟินสุด ๆ เมื่อทำได้ 10.Assassins Creed: Rogue ปิดท้ายกันด้วยเกม Assassins Creed: Rogue ที่ในรอบนี้ศัตรูของเราไม่ใช้เหล่า Templar ที่เหมือนกับทุก ๆ ภาคที่ผ่านมาก แต่เป็นการต่อสู้กับเหล่า Assassin ด้วยกันเอง ถือว่าเป็นหนึ่งในอารมณ์แปลกใหม่ของซีรีส์ อีกทั้งตัวเกมก็ยังเล่นได้สนุกมากอีกด้วย เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 เกมที่ให้เราได้เล่นเป็นตัวร้ายที่พวกเราเอามานำเสนอในวันนี้ ชอบเกมไหนก็บอกพวกเราได้เลย
22 Sep 2020
10 เกมถูกแบน ที่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้
บนโลกนี้มีเกมที่ถูกพัฒนาสร้างออกมาสู่สายตาชาวโลกมากมายครับ แต่ว่าก่อนจะได้เล่นแต่ละเกมนั้นต้องผ่านการคัดกรองจากกองเซนเซอร์ของแต่ละประเทศก่อน โดยจะมีทั้งเกมที่ถูกบังคับให้ปรับเปลี่ยนภาพบางส่วน ตัดบางฉาก หรือถึงขนาดแบนทิ้งห้ามจำหน่ายไปเลย ซึ่งเหตุผลส่วนใหญ่จะเป็นเกมที่มีภาพหรือเนื้อหาที่มีความรุนแรง แต่บางเกมก็จะถูกแบนด้วยเหตุผลแปลกๆ ครับ ซึ่งวันนี้เรา GameFever TH จะพาทุกคนไปดู 10 เกมที่ถูกแบนจากประเทศต่างๆ ที่พวกเราอาจจะยังไม่รู้กันครับ จะมีเกมอะไรบ้างมาดูกันเลย! 1.Battlefield 4 เป็นเกมที่ออกมาเมื่อปี 2013 และเล่าถึงเหตุการณ์อนาคตในปี 2020 ตัวเกมถูกแบนห้ามวางจำหน่ายในประเทศจึนเพราะหนึ่งในด่านของโหมดผู้เล่นหลายคนนั้น มีชื่อว่า Siege of Shanghai จะมีฉากถล่มตึกในเมือง ซึ่งก็พอรู้กันอยู่ว่าจีนนั้นเขาไม่ค่อยชอบให้เกมหรือสื่อบันเทิงกล่าวหาพวกเขาแบบเสียๆ หายๆ ในตอนนั้นจีนถึงกับกล่าวหาค่าย  EA (  Electronic Arts) โดยกระทรวงวัฒนธรรมของจีนประกาศให้เกม Battlefield 4 ของ EA เป็น "เกมที่ผิดกฎหมาย" และนอกจากจะห้ามขายเกมแล้ว ยังสั่งห้ามเผยแพร่ทุกๆ อย่างที่เกี่ยวข้องกับเกมนี้ รวมถึงสั่งลบทุกอย่างที่เคยโพสต์ไปแล้วบนเว็บในประเทศจีนภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากออกคำสั่งอีกด้วย. 2.PlayerUnknowns Battlegrounds ใครจะคิดว่าเกมดังอย่าง PlayerUnknowns Battlegrounds หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า PUBG จะโดนแบนจากประเทศอื่นๆ ซึ่งเกมนี้ถูกแบนจากประเทศอิรัก เนปาล ล่าสุดมีประเทศจอร์แดนและจีนมาแบนด้วยเช่นกัน ตัวเกมถูกแบนเพราะทางแต่ละประเทศให้ดหตุผลว่าทำให้เหล่าคนที่เล่นเกมนี้ทำตัวออกห่างจากสังคมและมีปัญหาสุขภาพจิต ซึ่ง PUBG เป็นหนึ่งในเกมแนว Battle Royale ที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ของโลกพอๆ กับเกม Fortnite ซึ่งคาดว่าจะเป็นเกมถัดไปที่ถูกประเทศจอร์แดนแบนเป็นเกมถัดไปด้วยปัญหาเดียวกัน555 3.Grand Theft Auto V Grand Theft Auto เป็นหนึ่งในซีรีส์เกมที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงข้อดีข้อเสียแทบจะมากที่สุดในประวัติศาสตร์เกมเลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งเกมของค่ายพัฒนาอย่าง Rockstar Games นั่นคือเกม Grand Theft Auto V ถูกแบนไปมากว่า 50 ประเทศ! เพราะเกมมีทั้งฉากความรุนแรงมีฉากเข้าบ่อนเล่นคาสิโนสารพัดสิ่งที่ผิดกฏหมายในโลกจริง!. 4.Postal 2 เกมนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของความรุนแรงที่เยอะมากและมีลักษณะการทรมานศัตรูที่แปลกๆ และไร้เหตุผลเกินไป จึงเกิดกระแสวิจารณ์เยอะพอสมควร จนทำให้ประเทศอย่างนิวซีแลนด์และประเทศอื่นๆ แบนเกมนี้โดยคาดโทษว่า "ผู้ที่นำเกมเข้ามาจะได้รับโทษหนัก ในกรณีที่นำมาเล่นหรือวางจำหน่าย" ส่วนประเทษที่อนุญาตให้เกมวางจำหน่ายก็จะติดเลทอายุไว้ว่าไม่เหมาะสำหรับเด็กหรืออย่างน้อยผู้ใหญ่ก็ควรให้คำแนะนำ 5.Red Dead Redemption 2 หลังจากที่เกม Red Dead Redemption 2 ได้ทำการเพิ่มระบบเล่นการพนัน เช่น โป๊กเกอร์ ลงไปในเกมเพื่อรองรับสำหรับความบันเทิงในโหมด Online แต่มันเป็นสิ่งต้องห้ามของหลายๆ ประเทศ ซึ่งล่าสุดเบลเยียมหนึ่งในประเทศที่ห้ามมีการเล่นโป๊กเกอร์ ได้ทำการแบนไม่ให้ผู้คนในประเทศเข้าไปเล่นเกมนี้ ซึ่งล่าสุดเกมนี้มีข่าวว่ากำลังถูกขึ้นบัญชีดำจากหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกันครับ. 6.Manhunt 2 เกมนี้ออกแนวฆาตกรรมโรคจิตๆ และมีภาพที่โหดร้ายเยอะในระดับนึง ตัวเกมจึงถูกแบนในประเทศอังกฤษ ซึ่งเกมนี้หลังจากปล่อยออกมา ได้รับคะแนน ESRB ( เป็นองค์กรที่จะประเมินว่าเกมควรอยู่ในเรทไหน เหมาะสมกับคนกลุ่มไหนครับ ) อยู่ที่ AO ซึ่งหมายความง่ายๆ เลยคือ เหมาะสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น และรุนแรงถึงขนาดที่ผู้พัฒนาต้องลงทุนปล่อยเกมฉบับ M-Rated Edition ที่ช่วยลดความรุนแรงลงไปเพื่อให้เกมสามารถวางจำหน่ายได้ในประเทศที่แบนเกมของพวกเขาอีกด้วย. 7.South Park: The Stick Of Truth ใครจะไปคิดครับเกมภาพการ์ตูนน่ารักๆ จะโดนแบนได้อย่างไร? มันเกิดขึ้นแล้วครับกับเกม South Park: The Stick Of Truth ภาพอาจน่ารัก แต่เนื้อหานี่แหละครับคือประเด็นหลัก หลายประเทศเซ็นเซอร์แบนเกมนี้โดยให้เหตุผลว่า เกมมีเนื้อหาออกไปในแนวทางชักนำให้เกิดการก่อม็อบ ก่อประท้องจนถึงเหตุจลาจล และที่แปลกสุดคือ มีเหตุผลที่ว่าตัวเกมมีเอเลี่ยนที่แปลกเกินไป! 555 8.Mafia II เกม Mafia II วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2010 ซึ่งเป็นเกมที่ไม่สนใจถึงผลลบ หรือกระแสดราม่าใดๆ ผู้พัฒนาได้สร้างมันออกมาเป็นเกมแนวโลกเปิดที่เต็มไปด้วยเนื้อหาไม่เหมาะสม จนต้องถูกสภาสื่อแห่งชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตทำการแบนห้ามวางจำหน่ายเกม Mafia II ของ 2K Games ในประเทศ. 9.Call Of Duty: Modern Warfare 2 อีกหนึ่งเกม Action / FPS ที่ขายดีอันดับต้นๆ ซึ่งเกมนี้ถูกแบนจะประเทศรัสเซียเพราะว่ามีฉากที่พลเรือนถูกกระหน่ำยิงที่สนามบินรัสเซีย ซึ่งโดยปกติแล้วเวลานักพัฒนาจะสร้างเกมแนวนี้ขึ้นมาพวกเขาจะพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงประเทศนั้นตรงๆ หรือทำให้ฉากนั้นๆ ดูมีความรุนแรงน้อยลง แต่ทาง Modern Warfare 2 นั้นยังคงนำฉากสนามบินเข้ามา และแม้ว่าจะโดนแบนจากรัสเซีย แต่ผลที่ได้รับก็ถือว่าดีตามคาดและกอบกำไรไปได้อย่างมหาศาลครับ. 10.Counter-Strike เกมยิงในสมัยยุคแรกๆ แต่ก็ดันถูกแบนจากรัฐบาลของประเทศบราซิลด้วยเหตุผลที่ว่า "เกมไม่เหมาะจะเผยแพร่แก่ประชาชน เนื่องจากมีการนำสลัมในเมืองริโอเดอจาเนโรสถานที่จริงมาใช้ในเกม" ืแต่ประเด็นคือ เหตุผลในการนี้ถูกตั้งขึ้นหลังจากเกมนี้ภาคดั้งเดิมออกมาได้เกือบ 20 ปีแล้ว ขนาดที่ว่าผู้พัฒนาเกมจะหาทางจำหน่ายโดยตั้งเรมเกมนี้เป็น 18+ ผลสุดท้ายก็ยังโดนแบน! Credit: Gamerant 
15 Jun 2020
รีวิวเกม Mafia II: Definitive Edition เข้าสู่โลกแห่งมาเฟียอีกครั้ง ด้วยภาพที่ทันสมัยขึ้น
สำหรับหลายๆ คน Mafia II ถือเป็นหนึ่งในเกม Action Open World ที่น่าจดจำมากที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กับการนำเสนอเรื่องราวโลกของตระกูลมาเฟียอิตาลี ให้เราไปโลดแล่นและสัมผัสความคลาสสิคของประเทศสหรัฐอเมริกาในสมัยยุค 40s - 50s ได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมกับตัวละครหลักอย่าง Vito Scaletta และเพื่อนซี๊ Joe Barbaro ที่หลายๆ คนยกให้มันเป็นหนึ่งในตัวละครที่น่าจดจำอันดับต้นๆ จนถึงทุกวันนี้ กับความสัมพันธ์ของทั้งสองที่ฝ่าฟันมาตั้งแต่จุดเริ่มต้น ล่าสุดผู้พัฒนาก็ได้เซอร์ไพรส์เหล่าแฟนๆ ทำการเปิดตัว Mafia II: Definitive Edition กับการเอาเกม Mafia II ที่วางจำหน่ายในปี 2010 มาขัดเกลากราฟิกใหม่ให้ดูสวยงามตามยุคสมัย เพื่อให้เราได้มีโอกาสสัมผัสถึงความยอดเยี่ยมของมันอีกครั้งในรูปแบบที่สมบูรณ์กว่าเดิม และให้เกมเมอร์รุ่นใหม่ได้มีโอกาสลิ้มลองและเข้าใจว่าทำไมเกมนี้ถึงถูกยกให้เป็นภาคที่ดีที่สุดอของซีรีส์นี้ โดยในบทความนี้พวกเรา GameFever TH ได้เข้าไปทดลองเล่นเกมนี้มาแล้ว และจะมารีวิวเกมนี้ให้ทุกท่านได้ทราบกัน ว่ามันมีอะไรที่แตกต่างจากเวอร์ชั่นดั้งเดิมบ้าง ◊ กราฟิก / การนำเสนอ ◊ ต้องบอกก่อนว่าผู้เขียนเคยเล่น Mafia II เวอร์ชั่น Original มาก่อนหน้าแล้ว และพอได้มีโอกาสรีวิวเวอร์ชั่น HD นี้ก็เลยลองโหลดเวอร์ชั่นเก่ามาเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นใหม่ด้วย โดยผู้เขียนปรับกราฟิกของทั้งสองเวอร์ชั่นจนสุดทั้งหมด เพื่อจะได้เปรียบเทียบให้เห็นความต่างกันแบบชัดๆ ไปเลย เริ่มจากการมองด้วยสายตาก่อนเลยครับ Mafia II: Definitive Edition จะมีความคมชัดมากกว่าเวอร์ชั่นต้นฉบับเป็นอย่างมาก ใครที่เคยเล่นเวอร์ชั่นเก่าก็น่าจะเคยรู้สึกว่าภาพของตัวเกมมันมีความเบลอๆ จากการลดรายละเอียดฉากที่อยู่ไกลให้น้อยลง ส่วนหนึ่งเพื่อให้สามารถเล่นบนเครื่อง Console ยุคนั้นได้ด้วย แต่พอเป็นเวอร์ชั่นใหม่นี้ ตัวเกมก็ได้ปลดล็อคข้อจำกัดนี้ทั้งหมด ทำให้การมองดูสบายตามากขึ้น พร้อมทั้งยังมีการเพิ่มแสงเงา บรรยากาศหรือควันต่างๆ ให้ดูสมจริงมากขึ้นไปอีก ซึ่งส่งผลให้เมืองของเกมรู้สึกกว้างขึ้นกว่าเก่า และทำให้ประสบการณ์ทั้งหมดมีความลื่นไหลขึ้น เพราะจะไม่ต้องทนมองภาพมัวๆ ให้รำคาญตาอีกต่อไป แต่ถึงอย่างนั้นใครที่คาดหวังว่ารายละเอียด Texture ของฉากจะมีความสมจริงขึ้น ก็อาจจะผิดหวังนิดหน่อยนะครับ เพราะตัวเกมดูจะเน้นเพิ่มรายละเอียดแสงเงาให้ดูสมจริงเพียงเท่านั้น แต่รายละเอียดตึกรามบ้านช่องกลับไม่ได้ต่างจากเวอร์ชั่นเดิมมากนัก พื้นผิวตามถนนเองก็ค่อนข้างเรียบแบนเหมือนเดิม ไม่ได้ปรับให้ดูสมจริงขึ้นแต่อย่างใด พูดง่ายๆ คือเกมแอบมีความ "สวยร้อยเมตร" ที่ถ้ามองผ่านๆ หรือมองไกลๆ จะดูดีขึ้นจากภาคเก่าถนัดตา แต่เมื่อเข้ามาดูใกล้ๆ ก็จะเริ่มสังเกตเห็นตีนกามากมายเช่นเดียวกัน ในเรื่องของฉากคัดซีนเองก็มีการเพิ่มเติมใส่รายละเอียดในเรื่องหน้าตาของตัวละครให้มากขึ้นกว่าเวอร์ชั่นต้นฉบับ สังเกตุจากภาพด้านล่าง เราจะเห็นแผลเป็นตรงคางของตัวเอกได้ชัดมากขึ้น ริ้วรอยย่นต่างๆ เองก็มีเยอะขึ้น แต่ที่เห็นได้ชัดเลยคือเรื่องของเงาสะท้อนที่ทำออกมาได้มีเฉดเงาที่เป็นธรรมชาติกว่าเดิม ใครที่เคยเล่นเกมเวอร์ชั่นเก่ามาก่อนท่านจะเห็นความแตกต่างเป็นอย่างมากเลยทีเดียว มาดูถึงเรื่องความลื่นไหลของตัวเกมกันบ้าง ซึ่งอย่างที่บอกไปว่าผู้เขียนนั้นปรับกราฟิกแบบสูงสูดทุกอย่าง โดยคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับรีวิวนั้น สเปกอยู่ที่ระดับกลางๆ คือ CPU Intel i5 8400 กับการ์ดจอ GTX 1060 6GB เท่านั้น แต่สามารถรันเฟรมเรทได้มากกว่า 60 FPS ตลอดเวลาไม่มีตก (จะอยู่ราวๆ 70-110 FPS) ซึ่งถือว่าลื่นมากๆ และไม่เคยมีปัญหาเกมเด้งเกมหลุดแต่อย่างใด ถือว่าผู้พัฒนาทำการปรับปรุงกราฟิกออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าให้ถามว่ามีสิ่งที่ไม่ชอบบ้างไหม ก็ต้องบอกว่าส่วนตัวผู้เขียนมีปัญหาในการควบคุมด้วยจอย Xbox พอสมควร Mafia II: Definitive Edition ยังมีปัญหาเรื่องการบังคับอยู่บ้าง เช่นระบบการช่วงเล็งปืนหรือ Aim Assist ที่บางครั้งพึ่งพาไม่ค่อยได้ ยกตัวอย่างเวลาเราจะเล็งยิงศัตรู คนที่เคยเล่นเกมแนวยิงโดยใช้จอยมาก่อน ปกติแล้วเรามักจะหันมุมกล้องให้ศัตรูอยู่บริเวณกลางจอพอดี เวลากดเล็งเป้ามันจะล็อคเข้าตัวศัตรูได้อย่างง่ายดาย แต่สำหรับเกมนี้บ่อยครั้งที่ระบบช่วยเล็งไม่ยอมล็อคตามที่เราต้องการ ทำให้การเล่นค่อนข้างเสียจังหวะเป็นอย่างมาก และต่อให้ปิดโหมด Aim Assist ตัวเกมก็ยังมีจังหวะแปลกๆ ช่วยเล็งให้เฉยทั้งๆ ที่ไม่ต้องการ ซึ่งคนที่เล่นด้วยเมาส์และคีย์บอร์ดอาจจะไม่พบปัญหานี้ นอกไปจากการควบคุม ยังมี Bug แอนิเมชั่นของตัวละครที่อยู่ดีๆ ก็เดินติด หรือยืนเฉยๆ ก็ยังมีให้เห็นอยู่มากพอสมควร ส่วนเรื่อง Interface ก็เหมือนเวอร์ชั่นเก่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทำให้เกมรู้สึก "เก่า" กว่าที่ควรจะเป็นอยู่บ้าง ◊ เนื้อเรื่อง ◊ Mafia II เป็นหนึ่งในเกมที่น่าจดจำมากๆ โดยเราจะได้รับบทเป็น Vito Scaletta เด็กหนุ่มชาวอิตาลีที่อพยพมาอยู่ในเมือง Empire Bay (เมืองสมมติ) ในประเทศอเมริกา พร้อมมีเพื่อนคู่ซี้นามว่า Joe Barbaro ที่พวกเขาทั้งคู่ค่อยๆ เติบโตเพื่อก้าวสู้เส้นทางมาเฟีย โดยเราจะได้เห็นการเติบโตของ Vito ที่เริ่มจากการลักเล็กขโมยน้อย เริ่มทำงานเล็กๆ ให้กับมาเฟีย ถูกหลอกบ้าง ขยับขยายไปจนถึงงานใหญ่ๆ และเข้าสู่ครอบครัวมาเฟียอิตาลีเต็มตัว ตัวเกมนำเสนอทั้งเรื่องผลประโยชน์ การหักหลังคนในองค์กร หรือการตัดสินใจสุดแสนยากลำบาก ซึ่งคนที่คุ้นเคยกับหนังหรือเนื้อเรื่องแนวมาเฟียอยู๋แล้ว น่าจะพอเดาได้ว่าจะสามารถคาดหวังอะไรจากเนื้อเรื่องของเกมได้บ้าง แต่ถามว่าเนื้อเรื่องของเกมนี้มันยอดเยี่ยมขนาดนั้นไหม ก็ต้องบอกว่ามันอยู่ในระดับกลางค่อนไปทางดีครับ ไม่ได้เลิศเลอมาก เพราะตัวเกมกว่าครึ่งจะเล่าเรื่องเส้นทางของตัวเอก Vito และ Joe ก่อนจะเข้าสู่ครอบครัวมาเฟียอย่างเต็มตัว เลยทำให้บ้างช่วงแผ่วๆ ลงไปบ้าง กว่าจะถึงช่วงที่เข้มข้นก็อาจจะต้องรอเนื้อเรื่องช่วงหลังจากที่ทั้งสองเข้าร่วมตระกูลมาเฟียไปแล้ว แต่โชคดีหน่อยที่เกมนี้เล่าเรื่องได้ค่อนข้างกระชับ ไม่ยึดเยื้อเท่าไร เลยทำให้เราสามารถผ่านจุดน่าเบื่อไปได้ง่ายๆ แต่มันก็แลกมาด้วยการที่เกมนี้ใช้เวลาการเล่นเพียงแค่ 15 ชั่วโมงจบเท่านั้น อาจจะถือว่าจบเร็วไปหน่อยเพราะมาตรฐานเกม Open World ของหลายๆ คนน่าจะอยู่ที่ 20 ชั่วโมงขึ้นไป แต่ถ้าให้เทียบกับคุณภาพของเกมที่วางจำหน่ายในช่วงปี 2010 ต้องบอกเลยว่า Mafia II เป็นเกมที่นำเสนอเนื้อเรื่องออกมายอดเยี่ยมเป็นอันดับต้นๆ เลย ◊ เกมเพลย์ ◊ ในส่วนของเกมเพลย์นั้น ก็ต้องบอกว่า Mafia II ก็คือเกมแนวแอคชัน Third-Person Open World ทั่วไป ที่ไม่ได้มีระบบอะไรหวือหวาหรือน่าสนใจเป็นพิเศษ ภารกิจส่วนใหญ่ก็จะเป็นการไปจัดการเป้าหมายเหมือนๆ กัน และค่อนข้างจะดำเนินแบบตามบท ไม่ได้มีลูกเล่นให้เราพลิกแพลงเยอะเท่าไหร่นัก เช่นในบางภารกิจตัวเกมสามารถให้เราลอบเข้าไปขโมยของได้ แต่พอลอบเข้าไปขโมยเสร็จพวกศัตรูก็จะรู้และแห่มาจัดการเราอยู่ดี ไม่ได้มีทางเลือกในการเล่นให้เราแอบหนีออกไปอย่างเงียบๆ แต่ก็อาจจะติได้ไม่ร้อยเปอร์เซนต์นัก เพราะเกม Open World ในยุคนั้นก็เป็นแบบนี้เกือบทั้งหมด ใครที่อยากจะหวังในด้านเกมเพลย์ต้องบอกเลยว่าท่านอาจจะผิดหวังกับมัน เพราะจุดเด่นมันไม่ใช่เกมเพลย์แม้แต่น้อย แต่มันเป็นอารมณ์ร่วมที่แต่ละภารกิจจะมีความสอดคล้องต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เช่นเราอาจจะได้รับภารกิจไปจัดการคนที่มันเคยมีประวัติไม่ดีกับเรา หรือการทำภารกิจนี้เพื่อคาดหวังบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งมันเป็นแรงจูงใจหลักในการเล่นเกมนี้จนจบนั่นเอง Mafia II จึงอาจจะเรียกได้ว่าเป็นเกมเน้นเนื้อเรื่องที่เอา Open World มาเป็นองค์ประกอบเท่านั้น ส่วนระบบการต่อสู้ ถึงแม้ว่ามันจะเรียบง่ายไม่แตกต่างจากเกมอื่น แต่ตัวเกมก็ยังแอบยากในระดับหนึ่ง เพราะ A.I. เกมนี้จัดว่ายิงแม่นมากๆ นี่คือความท้าทายที่มีเสน่ห์ที่สุดของเกมนี้เลยก็ว่าได้ ถึงแม้เนื้อเรื่องจะเชิดชูให้ตัวละครเอกเราเก่งจัดการคนเป็นสิบได้  แต่พอเล่นจริง เราโดนศัตรูยิง 2-3 นัดก็ลงไปคุยกับรากมะม่วงได้อย่างง่ายดาย บวกกับการบังคับปืนหรือการช่วยเล็งที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับเราอีก ใครที่ยังเป็นมือใหม่สำหรับเกมแนวนี้ ก็อาจจะต้องตายกันหลายรอบหน่อย (เมื่อก่อนผู้เขียนก็เป็น) รวมถึงระบบขับรถที่หลายๆ คนยังพูดถึงมาจนทุกวันนี้ เพราะระบบฟิสิกส์มันแย่มากๆ ตัวรถมักจะเหวี่ยงไปมาในลักษณะที่ไม่เป็นธรรมชาติและคาดเดาลำบาก เวลาเจอภารกิจไล่ล่านี่ต้องมีหัวร้อนกันตลอด แต่ถ้าลองมองภาพให้กว้างขึ้น มันก็อาจจะสมเหตุสมผล เพราะว่าเกมนี้พยายามให้เราสัมผัสโลกในยุคปี 40 - 50 มากที่สุด การที่รถเหล่านี้ไม่สามารถซิ่งสะท้านฟ้าเหมือนรถยุคปัจจุบันก็อาจจะเป็นสิ่งที่ผู้พัฒนาตั้งใจเอาไว้อยู่แล้ว รวมถึงระบบจราจรที่ค่อนข้างน่าหงุดหงิด แต่อาจเรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ของเกมซีรีส์นี้เลยก็ว่าได้ โดยจะมีตำรวจคอยตรวจสอบความเร็วของรถเราตลอด ถ้าหากว่าเรานั้นขับรถเร็วเกิน 40 km/ชั่วโมง ผ่านหน้ารถตำรวจก็เตรียมตัวเจอไล่ได้เลยจ้า ถ้าตำรวจไล่ล่านานๆ พวกเขาก็จะสามารถจำป้ายทะเบียนรถได้อีก เราต้องเปลี่ยนรถหรือเข้าอู่เปลี่ยนป้ายทะเบียนเพื่อให้รอดสายตา ซึ่งตัวระบบนี้ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของซีรีส์ Mafia เลยก็ว่าได้ สรุป Mafia II: Definitive Edition สามารถปรับปรุงกราฟิกจากเวอร์ชั่น 2010 ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เฉดเงาต่างๆ ทำออกมาได้สวยงดสดงาม สิ่งที่ประทับใจที่สุดเลยก็คือปัญหารายลดละเอียดฉากไกลสุดมัวที่หายไป ทำให้เกมดูสบายตามากขึ้นกว่าเดิมเยอะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเรื่องรายละเอียดพื้นผิวของเกมก็ยังไม่ได้เปลี่ยนมากนัก ส่วนตัวคิดว่ามันทำการปรับปรุงกราฟิกออกมาได้มากที่สุดที่มันจะสามารถทำได้แล้วแหล่ะ ตัวเกมนำเสนอโลกของเมือง Empire Bay ที่จำลองบางส่วนมากจากแมนฮัตตัน และบรูคลินได้สวยงามมากขึ้น เราจะได้เห็นอเมริกาในยุค 40s และ 50s พร้อมทั้งสถานที่น่าสนใจอย่างตึก Empire State และสะพานบรูคลิน ทั้งการแต่งตัวของเราและ NPC ที่ให้ความรู้สึกแบบวินเทจ ซึ่งส่วนตัวอยากให้คนที่ไม่เคยได้สัมผัสเกมนี้ลองซักครั้ง ในส่วนของเนื้อเรื่องของเกมนั้นถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ลึกซึ้งกินใจเหมือนเกมชั้นนำ แต่มันก็สามารถนำเสนอเรื่องราวของมาเฟียออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เราจะได้เห็นทั้งมิตรภาพ, ความทุกข์, ความสุข, การแก้แค้น, โดนหลอก และหักหลัง ของสองเพื่อนซี๊อย่าง Vito Scaletta และ Joel Barbaro พร้อมยังนำเสนอสังคมอันดำมืดและผลประโยชน์ของโลกมาเฟียให้เราได้เห็นอีกด้วย แม้เอาเข้าจริงต้องยอมรับว่าเนื้อเรื่องมีความ "เดาได้" สำหรับแฟนของหนังมาเฟีย แต่ถ้าคุณเคยคิดว่าอยากจะลองเล่นหนังมาเฟียเรื่องโปรดของคุณในฐานะเกม นี่อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งในตอนนี้ เช่นเดียวกับเกมเพลย์ ที่ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ยอดเยี่ยมที่สุด ระบบเกือบทั้งหมดก็มีให้พบเห็นได้ทั่วไป แต่องค์ประกอบโดยรวมที่สอดคล้องกับเนื้อเรื่องมันเกื้อหนุนกัน และทำให้ Mafia II เป็นเกมที่น่าจดจำมากๆ ในปี 2010 และผู้เขียนยกให้มันเป็นเกม Mafia ภาคที่ดีที่สุดเลยทีเดียว [penci_review id="54170"]
19 May 2020
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "Mafia II: Definitive Edition"
10 เกมที่ให้เราเล่นเป็นตัวร้าย
ตัวร้ายถือว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เราจะต้องเจอในทุก ๆ เกม เพื่อเป็นจุดมุ่งหมายของการเล่น แต่มีหลาย ๆ เกมแทนที่จะให้เราเป็นตัวเอก ดันให้เราเล่นเป็นตัวผู้ร้ายสะงั้น ซึ่งก็ให้ความรู้สึกและอารมณ์ที่แตกต่างอย่างมาก วันนี้พวกเรา GameFever TH จะขอแนะนำ 10 เกมที่ให้เราได้เล่นเป็นตัวร้าย 1.Series GTA Grand Theft Auto หรือ GTA หนึ่งในเกมตระกูลที่จะให้เรารับบทเป็นอาชกรระดับพระกาฬ ที่ต้องไต่เต้าตัวเองขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของห่วงโซ่นี้ โดยเกมนี้จะให้เราอิสระกับเราในการทำอะไรก็ได้ที่ชีวิตจริงคงไม่มีใครทำกัน พร้อมกับโลกในเกมอันแสนกว้างใหญ่ที่จะทำให้คุณติดหนึบกับเกมนี้ไปหลายวัน 2.Series Mafia หากซีรีส์ GTA เป็นแนวอาชกรแบบสมัยนิยม Mafia จะเป็นกลุ่มอาชกรที่เน้นในเรื่องของศักดิ์ศรีและความเป็นครอบครัวเดียวกันมากกว่า ตัวเกมมีเนื้อเรื่องที่ยอดเยี่ยม มีบรรยากาศในเกมที่ยากจะหาได้จากที่อื่น นับว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่สายอาชญากรรมต้องลองเล่น 3.Plague Inc. หนึ่งในเกมที่เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันมาก ๆ กับ Plague Inc. เกมที่จะให้เรารับบทเป็นเชื้อโรคที่จะต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา เพื่อที่จะแพร่กระจายเชื้อไปทั่วโลกและสังหารเหล่ามนุษย์ให้สิ้นเผ่าพันธ์ุ ตัวเกมเป็นเกมแนววางแผนที่เราจะต้องบริหารทรัพยากรต่าง ๆ ให้ดี พร้อมกับการเลือกการอัปเกรดที่เหมาะสม ที่หากเลือกอัปผิดอาจจะทำให้แพ้ได้เลย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมน่าเล่นเลยทีเดียว 4.Shadow Of The Colossus Shadow Of The Colossus แม้ว่าจะเป็นเกมอายุเกือบ ๆ 12 ปีแล้ว แต่ว่าคุณค่าของเกมนี้ไม่ได้ลดลงเลย ตัวเกมจะให้เรารับบทเป็นคน ๆ หนึ่งที่ต้องออกตามล่าเหล่าผู้พิทักษ์ เพื่อที่จะชุบชีวิตบุคคลอันเป็นที่รักของเขากลับมา ไม่ว่าเหล่าผู้พิทักษ์คนนั้นจะผู้บริสุทธิ์ขนาดไหน นอกจากนี้ตัวเกมยังรองรับภาษาไทยอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งเกม Masterpiece มาก ๆ 5.Destroy all Human สำหรับเกมนี้ก็ตามชื่อของเกมเลยครับผม Destroy all Human จะให้เรารับบทเป็นเอเลี่ยนนามว่า Cryptosporidium ที่ต้องออกไปตะลุยกับเหล่ามนุษย์ จนกว่าจะยึดดวงนี้มาเป็นของเอเลี่ยนให้ได้ แม้ว่าจะต้องกำจัดเหล่ามนุษย์ทุกตัวก็ตาม 6.Series Saints Row Saints Row คือแกงค์อาชญากรรมสุดเกรียนแห่งวงการเกม ที่พวกเขาไม่เน้นเรื่องของความสมจริงแต่เน้นในเรื่องของความฮาล้วน ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย อาวุธ เนื้อเรื่องทำออกมาได้อย่างฮา ที่สำคัญตัวเกมยังมีการลดราคาบ่อย ๆ อีกด้วย เป็นไปได้ก็แนะนำให้หามาลองเล่น 7.MANHUNT หนึ่งในเกมเนื้อหาสุดรุนแรงที่ถูกแบนไปแล้วหลาย ๆ ประเทศ MANHUNT ที่จะให้เราเล่นเป็น James Earl Cash ที่ต้องออกไปไล่ฆ่าผู้คน ด้วยวิธีการต่าง ๆ อันสุดแสนจะอมหิตที่ใครขวัญอ่อนควรที่จะเลี่ยงเกมนี้(รวมถึงน้อง ๆ ที่อายุไม่เกิน 18 ปีด้วยเช่นกัน) โดยปัจจุบันตัวเกมวางจำหน่ายอยู่ใน Steam ใครสนใจก็ลองหามากันได้ 8.Series Hitman Hitman โล้นซ่านักฆ่าหัวบาร์โค้ด หนึ่งในเกมที่ได้รับความนิยมมากจากเหล่าเกมเมอร์ทั่วโลก โดยจุดเด่นของเกมคือการที่จะให้เราสามารถออกแบบวิธีการสังหารเป้าหมายได้อย่างอิสระ ตามที่ความคิดสร้างสรรค์ของเราจะนำทาง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในซีรีส์เกมที่คุณควรหามาลอง 9.Dead by Daylight Dead by Daylight เกมนี้หลาย ๆ คนน่าจะเคยเล่นกันมาบ้างแล้ว โดยในเกมนี้จะให้เราแบ่งออกเป็นสองฝ่ายคือ ฝ่ายผู้รอดชีวิตและฝ่ายฆาตกร ที่ทั้งสองฝ่ายจะมีวัตถุประสงค์ต่างกัน ซึ่งหลาย ๆ คนคงเดาได้ใช่ไหมว่าใครเป็นตัวร้าย ฝ่ายฆาตกรนั่นเอง ที่เล่นได้สนุกมาก ๆ โดยเฉพาะตอนที่สามารถสังหารผู้รอดชีวิตได้ทุกคนที่ฟินสุด ๆ เมื่อทำได้ 10.Assassins Creed: Rogue ปิดท้ายกันด้วยเกม Assassins Creed: Rogue ที่ในรอบนี้ศัตรูของเราไม่ใช้เหล่า Templar ที่เหมือนกับทุก ๆ ภาคที่ผ่านมาก แต่เป็นการต่อสู้กับเหล่า Assassin ด้วยกันเอง ถือว่าเป็นหนึ่งในอารมณ์แปลกใหม่ของซีรีส์ อีกทั้งตัวเกมก็ยังเล่นได้สนุกมากอีกด้วย เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 เกมที่ให้เราได้เล่นเป็นตัวร้ายที่พวกเราเอามานำเสนอในวันนี้ ชอบเกมไหนก็บอกพวกเราได้เลย
22 Sep 2020
10 เกมถูกแบน ที่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้
บนโลกนี้มีเกมที่ถูกพัฒนาสร้างออกมาสู่สายตาชาวโลกมากมายครับ แต่ว่าก่อนจะได้เล่นแต่ละเกมนั้นต้องผ่านการคัดกรองจากกองเซนเซอร์ของแต่ละประเทศก่อน โดยจะมีทั้งเกมที่ถูกบังคับให้ปรับเปลี่ยนภาพบางส่วน ตัดบางฉาก หรือถึงขนาดแบนทิ้งห้ามจำหน่ายไปเลย ซึ่งเหตุผลส่วนใหญ่จะเป็นเกมที่มีภาพหรือเนื้อหาที่มีความรุนแรง แต่บางเกมก็จะถูกแบนด้วยเหตุผลแปลกๆ ครับ ซึ่งวันนี้เรา GameFever TH จะพาทุกคนไปดู 10 เกมที่ถูกแบนจากประเทศต่างๆ ที่พวกเราอาจจะยังไม่รู้กันครับ จะมีเกมอะไรบ้างมาดูกันเลย! 1.Battlefield 4 เป็นเกมที่ออกมาเมื่อปี 2013 และเล่าถึงเหตุการณ์อนาคตในปี 2020 ตัวเกมถูกแบนห้ามวางจำหน่ายในประเทศจึนเพราะหนึ่งในด่านของโหมดผู้เล่นหลายคนนั้น มีชื่อว่า Siege of Shanghai จะมีฉากถล่มตึกในเมือง ซึ่งก็พอรู้กันอยู่ว่าจีนนั้นเขาไม่ค่อยชอบให้เกมหรือสื่อบันเทิงกล่าวหาพวกเขาแบบเสียๆ หายๆ ในตอนนั้นจีนถึงกับกล่าวหาค่าย  EA (  Electronic Arts) โดยกระทรวงวัฒนธรรมของจีนประกาศให้เกม Battlefield 4 ของ EA เป็น "เกมที่ผิดกฎหมาย" และนอกจากจะห้ามขายเกมแล้ว ยังสั่งห้ามเผยแพร่ทุกๆ อย่างที่เกี่ยวข้องกับเกมนี้ รวมถึงสั่งลบทุกอย่างที่เคยโพสต์ไปแล้วบนเว็บในประเทศจีนภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากออกคำสั่งอีกด้วย. 2.PlayerUnknowns Battlegrounds ใครจะคิดว่าเกมดังอย่าง PlayerUnknowns Battlegrounds หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า PUBG จะโดนแบนจากประเทศอื่นๆ ซึ่งเกมนี้ถูกแบนจากประเทศอิรัก เนปาล ล่าสุดมีประเทศจอร์แดนและจีนมาแบนด้วยเช่นกัน ตัวเกมถูกแบนเพราะทางแต่ละประเทศให้ดหตุผลว่าทำให้เหล่าคนที่เล่นเกมนี้ทำตัวออกห่างจากสังคมและมีปัญหาสุขภาพจิต ซึ่ง PUBG เป็นหนึ่งในเกมแนว Battle Royale ที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ของโลกพอๆ กับเกม Fortnite ซึ่งคาดว่าจะเป็นเกมถัดไปที่ถูกประเทศจอร์แดนแบนเป็นเกมถัดไปด้วยปัญหาเดียวกัน555 3.Grand Theft Auto V Grand Theft Auto เป็นหนึ่งในซีรีส์เกมที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงข้อดีข้อเสียแทบจะมากที่สุดในประวัติศาสตร์เกมเลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งเกมของค่ายพัฒนาอย่าง Rockstar Games นั่นคือเกม Grand Theft Auto V ถูกแบนไปมากว่า 50 ประเทศ! เพราะเกมมีทั้งฉากความรุนแรงมีฉากเข้าบ่อนเล่นคาสิโนสารพัดสิ่งที่ผิดกฏหมายในโลกจริง!. 4.Postal 2 เกมนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของความรุนแรงที่เยอะมากและมีลักษณะการทรมานศัตรูที่แปลกๆ และไร้เหตุผลเกินไป จึงเกิดกระแสวิจารณ์เยอะพอสมควร จนทำให้ประเทศอย่างนิวซีแลนด์และประเทศอื่นๆ แบนเกมนี้โดยคาดโทษว่า "ผู้ที่นำเกมเข้ามาจะได้รับโทษหนัก ในกรณีที่นำมาเล่นหรือวางจำหน่าย" ส่วนประเทษที่อนุญาตให้เกมวางจำหน่ายก็จะติดเลทอายุไว้ว่าไม่เหมาะสำหรับเด็กหรืออย่างน้อยผู้ใหญ่ก็ควรให้คำแนะนำ 5.Red Dead Redemption 2 หลังจากที่เกม Red Dead Redemption 2 ได้ทำการเพิ่มระบบเล่นการพนัน เช่น โป๊กเกอร์ ลงไปในเกมเพื่อรองรับสำหรับความบันเทิงในโหมด Online แต่มันเป็นสิ่งต้องห้ามของหลายๆ ประเทศ ซึ่งล่าสุดเบลเยียมหนึ่งในประเทศที่ห้ามมีการเล่นโป๊กเกอร์ ได้ทำการแบนไม่ให้ผู้คนในประเทศเข้าไปเล่นเกมนี้ ซึ่งล่าสุดเกมนี้มีข่าวว่ากำลังถูกขึ้นบัญชีดำจากหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกันครับ. 6.Manhunt 2 เกมนี้ออกแนวฆาตกรรมโรคจิตๆ และมีภาพที่โหดร้ายเยอะในระดับนึง ตัวเกมจึงถูกแบนในประเทศอังกฤษ ซึ่งเกมนี้หลังจากปล่อยออกมา ได้รับคะแนน ESRB ( เป็นองค์กรที่จะประเมินว่าเกมควรอยู่ในเรทไหน เหมาะสมกับคนกลุ่มไหนครับ ) อยู่ที่ AO ซึ่งหมายความง่ายๆ เลยคือ เหมาะสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น และรุนแรงถึงขนาดที่ผู้พัฒนาต้องลงทุนปล่อยเกมฉบับ M-Rated Edition ที่ช่วยลดความรุนแรงลงไปเพื่อให้เกมสามารถวางจำหน่ายได้ในประเทศที่แบนเกมของพวกเขาอีกด้วย. 7.South Park: The Stick Of Truth ใครจะไปคิดครับเกมภาพการ์ตูนน่ารักๆ จะโดนแบนได้อย่างไร? มันเกิดขึ้นแล้วครับกับเกม South Park: The Stick Of Truth ภาพอาจน่ารัก แต่เนื้อหานี่แหละครับคือประเด็นหลัก หลายประเทศเซ็นเซอร์แบนเกมนี้โดยให้เหตุผลว่า เกมมีเนื้อหาออกไปในแนวทางชักนำให้เกิดการก่อม็อบ ก่อประท้องจนถึงเหตุจลาจล และที่แปลกสุดคือ มีเหตุผลที่ว่าตัวเกมมีเอเลี่ยนที่แปลกเกินไป! 555 8.Mafia II เกม Mafia II วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2010 ซึ่งเป็นเกมที่ไม่สนใจถึงผลลบ หรือกระแสดราม่าใดๆ ผู้พัฒนาได้สร้างมันออกมาเป็นเกมแนวโลกเปิดที่เต็มไปด้วยเนื้อหาไม่เหมาะสม จนต้องถูกสภาสื่อแห่งชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตทำการแบนห้ามวางจำหน่ายเกม Mafia II ของ 2K Games ในประเทศ. 9.Call Of Duty: Modern Warfare 2 อีกหนึ่งเกม Action / FPS ที่ขายดีอันดับต้นๆ ซึ่งเกมนี้ถูกแบนจะประเทศรัสเซียเพราะว่ามีฉากที่พลเรือนถูกกระหน่ำยิงที่สนามบินรัสเซีย ซึ่งโดยปกติแล้วเวลานักพัฒนาจะสร้างเกมแนวนี้ขึ้นมาพวกเขาจะพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงประเทศนั้นตรงๆ หรือทำให้ฉากนั้นๆ ดูมีความรุนแรงน้อยลง แต่ทาง Modern Warfare 2 นั้นยังคงนำฉากสนามบินเข้ามา และแม้ว่าจะโดนแบนจากรัสเซีย แต่ผลที่ได้รับก็ถือว่าดีตามคาดและกอบกำไรไปได้อย่างมหาศาลครับ. 10.Counter-Strike เกมยิงในสมัยยุคแรกๆ แต่ก็ดันถูกแบนจากรัฐบาลของประเทศบราซิลด้วยเหตุผลที่ว่า "เกมไม่เหมาะจะเผยแพร่แก่ประชาชน เนื่องจากมีการนำสลัมในเมืองริโอเดอจาเนโรสถานที่จริงมาใช้ในเกม" ืแต่ประเด็นคือ เหตุผลในการนี้ถูกตั้งขึ้นหลังจากเกมนี้ภาคดั้งเดิมออกมาได้เกือบ 20 ปีแล้ว ขนาดที่ว่าผู้พัฒนาเกมจะหาทางจำหน่ายโดยตั้งเรมเกมนี้เป็น 18+ ผลสุดท้ายก็ยังโดนแบน! Credit: Gamerant 
15 Jun 2020
รีวิวเกม Mafia II: Definitive Edition เข้าสู่โลกแห่งมาเฟียอีกครั้ง ด้วยภาพที่ทันสมัยขึ้น
สำหรับหลายๆ คน Mafia II ถือเป็นหนึ่งในเกม Action Open World ที่น่าจดจำมากที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กับการนำเสนอเรื่องราวโลกของตระกูลมาเฟียอิตาลี ให้เราไปโลดแล่นและสัมผัสความคลาสสิคของประเทศสหรัฐอเมริกาในสมัยยุค 40s - 50s ได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมกับตัวละครหลักอย่าง Vito Scaletta และเพื่อนซี๊ Joe Barbaro ที่หลายๆ คนยกให้มันเป็นหนึ่งในตัวละครที่น่าจดจำอันดับต้นๆ จนถึงทุกวันนี้ กับความสัมพันธ์ของทั้งสองที่ฝ่าฟันมาตั้งแต่จุดเริ่มต้น ล่าสุดผู้พัฒนาก็ได้เซอร์ไพรส์เหล่าแฟนๆ ทำการเปิดตัว Mafia II: Definitive Edition กับการเอาเกม Mafia II ที่วางจำหน่ายในปี 2010 มาขัดเกลากราฟิกใหม่ให้ดูสวยงามตามยุคสมัย เพื่อให้เราได้มีโอกาสสัมผัสถึงความยอดเยี่ยมของมันอีกครั้งในรูปแบบที่สมบูรณ์กว่าเดิม และให้เกมเมอร์รุ่นใหม่ได้มีโอกาสลิ้มลองและเข้าใจว่าทำไมเกมนี้ถึงถูกยกให้เป็นภาคที่ดีที่สุดอของซีรีส์นี้ โดยในบทความนี้พวกเรา GameFever TH ได้เข้าไปทดลองเล่นเกมนี้มาแล้ว และจะมารีวิวเกมนี้ให้ทุกท่านได้ทราบกัน ว่ามันมีอะไรที่แตกต่างจากเวอร์ชั่นดั้งเดิมบ้าง ◊ กราฟิก / การนำเสนอ ◊ ต้องบอกก่อนว่าผู้เขียนเคยเล่น Mafia II เวอร์ชั่น Original มาก่อนหน้าแล้ว และพอได้มีโอกาสรีวิวเวอร์ชั่น HD นี้ก็เลยลองโหลดเวอร์ชั่นเก่ามาเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นใหม่ด้วย โดยผู้เขียนปรับกราฟิกของทั้งสองเวอร์ชั่นจนสุดทั้งหมด เพื่อจะได้เปรียบเทียบให้เห็นความต่างกันแบบชัดๆ ไปเลย เริ่มจากการมองด้วยสายตาก่อนเลยครับ Mafia II: Definitive Edition จะมีความคมชัดมากกว่าเวอร์ชั่นต้นฉบับเป็นอย่างมาก ใครที่เคยเล่นเวอร์ชั่นเก่าก็น่าจะเคยรู้สึกว่าภาพของตัวเกมมันมีความเบลอๆ จากการลดรายละเอียดฉากที่อยู่ไกลให้น้อยลง ส่วนหนึ่งเพื่อให้สามารถเล่นบนเครื่อง Console ยุคนั้นได้ด้วย แต่พอเป็นเวอร์ชั่นใหม่นี้ ตัวเกมก็ได้ปลดล็อคข้อจำกัดนี้ทั้งหมด ทำให้การมองดูสบายตามากขึ้น พร้อมทั้งยังมีการเพิ่มแสงเงา บรรยากาศหรือควันต่างๆ ให้ดูสมจริงมากขึ้นไปอีก ซึ่งส่งผลให้เมืองของเกมรู้สึกกว้างขึ้นกว่าเก่า และทำให้ประสบการณ์ทั้งหมดมีความลื่นไหลขึ้น เพราะจะไม่ต้องทนมองภาพมัวๆ ให้รำคาญตาอีกต่อไป แต่ถึงอย่างนั้นใครที่คาดหวังว่ารายละเอียด Texture ของฉากจะมีความสมจริงขึ้น ก็อาจจะผิดหวังนิดหน่อยนะครับ เพราะตัวเกมดูจะเน้นเพิ่มรายละเอียดแสงเงาให้ดูสมจริงเพียงเท่านั้น แต่รายละเอียดตึกรามบ้านช่องกลับไม่ได้ต่างจากเวอร์ชั่นเดิมมากนัก พื้นผิวตามถนนเองก็ค่อนข้างเรียบแบนเหมือนเดิม ไม่ได้ปรับให้ดูสมจริงขึ้นแต่อย่างใด พูดง่ายๆ คือเกมแอบมีความ "สวยร้อยเมตร" ที่ถ้ามองผ่านๆ หรือมองไกลๆ จะดูดีขึ้นจากภาคเก่าถนัดตา แต่เมื่อเข้ามาดูใกล้ๆ ก็จะเริ่มสังเกตเห็นตีนกามากมายเช่นเดียวกัน ในเรื่องของฉากคัดซีนเองก็มีการเพิ่มเติมใส่รายละเอียดในเรื่องหน้าตาของตัวละครให้มากขึ้นกว่าเวอร์ชั่นต้นฉบับ สังเกตุจากภาพด้านล่าง เราจะเห็นแผลเป็นตรงคางของตัวเอกได้ชัดมากขึ้น ริ้วรอยย่นต่างๆ เองก็มีเยอะขึ้น แต่ที่เห็นได้ชัดเลยคือเรื่องของเงาสะท้อนที่ทำออกมาได้มีเฉดเงาที่เป็นธรรมชาติกว่าเดิม ใครที่เคยเล่นเกมเวอร์ชั่นเก่ามาก่อนท่านจะเห็นความแตกต่างเป็นอย่างมากเลยทีเดียว มาดูถึงเรื่องความลื่นไหลของตัวเกมกันบ้าง ซึ่งอย่างที่บอกไปว่าผู้เขียนนั้นปรับกราฟิกแบบสูงสูดทุกอย่าง โดยคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับรีวิวนั้น สเปกอยู่ที่ระดับกลางๆ คือ CPU Intel i5 8400 กับการ์ดจอ GTX 1060 6GB เท่านั้น แต่สามารถรันเฟรมเรทได้มากกว่า 60 FPS ตลอดเวลาไม่มีตก (จะอยู่ราวๆ 70-110 FPS) ซึ่งถือว่าลื่นมากๆ และไม่เคยมีปัญหาเกมเด้งเกมหลุดแต่อย่างใด ถือว่าผู้พัฒนาทำการปรับปรุงกราฟิกออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าให้ถามว่ามีสิ่งที่ไม่ชอบบ้างไหม ก็ต้องบอกว่าส่วนตัวผู้เขียนมีปัญหาในการควบคุมด้วยจอย Xbox พอสมควร Mafia II: Definitive Edition ยังมีปัญหาเรื่องการบังคับอยู่บ้าง เช่นระบบการช่วงเล็งปืนหรือ Aim Assist ที่บางครั้งพึ่งพาไม่ค่อยได้ ยกตัวอย่างเวลาเราจะเล็งยิงศัตรู คนที่เคยเล่นเกมแนวยิงโดยใช้จอยมาก่อน ปกติแล้วเรามักจะหันมุมกล้องให้ศัตรูอยู่บริเวณกลางจอพอดี เวลากดเล็งเป้ามันจะล็อคเข้าตัวศัตรูได้อย่างง่ายดาย แต่สำหรับเกมนี้บ่อยครั้งที่ระบบช่วยเล็งไม่ยอมล็อคตามที่เราต้องการ ทำให้การเล่นค่อนข้างเสียจังหวะเป็นอย่างมาก และต่อให้ปิดโหมด Aim Assist ตัวเกมก็ยังมีจังหวะแปลกๆ ช่วยเล็งให้เฉยทั้งๆ ที่ไม่ต้องการ ซึ่งคนที่เล่นด้วยเมาส์และคีย์บอร์ดอาจจะไม่พบปัญหานี้ นอกไปจากการควบคุม ยังมี Bug แอนิเมชั่นของตัวละครที่อยู่ดีๆ ก็เดินติด หรือยืนเฉยๆ ก็ยังมีให้เห็นอยู่มากพอสมควร ส่วนเรื่อง Interface ก็เหมือนเวอร์ชั่นเก่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทำให้เกมรู้สึก "เก่า" กว่าที่ควรจะเป็นอยู่บ้าง ◊ เนื้อเรื่อง ◊ Mafia II เป็นหนึ่งในเกมที่น่าจดจำมากๆ โดยเราจะได้รับบทเป็น Vito Scaletta เด็กหนุ่มชาวอิตาลีที่อพยพมาอยู่ในเมือง Empire Bay (เมืองสมมติ) ในประเทศอเมริกา พร้อมมีเพื่อนคู่ซี้นามว่า Joe Barbaro ที่พวกเขาทั้งคู่ค่อยๆ เติบโตเพื่อก้าวสู้เส้นทางมาเฟีย โดยเราจะได้เห็นการเติบโตของ Vito ที่เริ่มจากการลักเล็กขโมยน้อย เริ่มทำงานเล็กๆ ให้กับมาเฟีย ถูกหลอกบ้าง ขยับขยายไปจนถึงงานใหญ่ๆ และเข้าสู่ครอบครัวมาเฟียอิตาลีเต็มตัว ตัวเกมนำเสนอทั้งเรื่องผลประโยชน์ การหักหลังคนในองค์กร หรือการตัดสินใจสุดแสนยากลำบาก ซึ่งคนที่คุ้นเคยกับหนังหรือเนื้อเรื่องแนวมาเฟียอยู๋แล้ว น่าจะพอเดาได้ว่าจะสามารถคาดหวังอะไรจากเนื้อเรื่องของเกมได้บ้าง แต่ถามว่าเนื้อเรื่องของเกมนี้มันยอดเยี่ยมขนาดนั้นไหม ก็ต้องบอกว่ามันอยู่ในระดับกลางค่อนไปทางดีครับ ไม่ได้เลิศเลอมาก เพราะตัวเกมกว่าครึ่งจะเล่าเรื่องเส้นทางของตัวเอก Vito และ Joe ก่อนจะเข้าสู่ครอบครัวมาเฟียอย่างเต็มตัว เลยทำให้บ้างช่วงแผ่วๆ ลงไปบ้าง กว่าจะถึงช่วงที่เข้มข้นก็อาจจะต้องรอเนื้อเรื่องช่วงหลังจากที่ทั้งสองเข้าร่วมตระกูลมาเฟียไปแล้ว แต่โชคดีหน่อยที่เกมนี้เล่าเรื่องได้ค่อนข้างกระชับ ไม่ยึดเยื้อเท่าไร เลยทำให้เราสามารถผ่านจุดน่าเบื่อไปได้ง่ายๆ แต่มันก็แลกมาด้วยการที่เกมนี้ใช้เวลาการเล่นเพียงแค่ 15 ชั่วโมงจบเท่านั้น อาจจะถือว่าจบเร็วไปหน่อยเพราะมาตรฐานเกม Open World ของหลายๆ คนน่าจะอยู่ที่ 20 ชั่วโมงขึ้นไป แต่ถ้าให้เทียบกับคุณภาพของเกมที่วางจำหน่ายในช่วงปี 2010 ต้องบอกเลยว่า Mafia II เป็นเกมที่นำเสนอเนื้อเรื่องออกมายอดเยี่ยมเป็นอันดับต้นๆ เลย ◊ เกมเพลย์ ◊ ในส่วนของเกมเพลย์นั้น ก็ต้องบอกว่า Mafia II ก็คือเกมแนวแอคชัน Third-Person Open World ทั่วไป ที่ไม่ได้มีระบบอะไรหวือหวาหรือน่าสนใจเป็นพิเศษ ภารกิจส่วนใหญ่ก็จะเป็นการไปจัดการเป้าหมายเหมือนๆ กัน และค่อนข้างจะดำเนินแบบตามบท ไม่ได้มีลูกเล่นให้เราพลิกแพลงเยอะเท่าไหร่นัก เช่นในบางภารกิจตัวเกมสามารถให้เราลอบเข้าไปขโมยของได้ แต่พอลอบเข้าไปขโมยเสร็จพวกศัตรูก็จะรู้และแห่มาจัดการเราอยู่ดี ไม่ได้มีทางเลือกในการเล่นให้เราแอบหนีออกไปอย่างเงียบๆ แต่ก็อาจจะติได้ไม่ร้อยเปอร์เซนต์นัก เพราะเกม Open World ในยุคนั้นก็เป็นแบบนี้เกือบทั้งหมด ใครที่อยากจะหวังในด้านเกมเพลย์ต้องบอกเลยว่าท่านอาจจะผิดหวังกับมัน เพราะจุดเด่นมันไม่ใช่เกมเพลย์แม้แต่น้อย แต่มันเป็นอารมณ์ร่วมที่แต่ละภารกิจจะมีความสอดคล้องต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เช่นเราอาจจะได้รับภารกิจไปจัดการคนที่มันเคยมีประวัติไม่ดีกับเรา หรือการทำภารกิจนี้เพื่อคาดหวังบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งมันเป็นแรงจูงใจหลักในการเล่นเกมนี้จนจบนั่นเอง Mafia II จึงอาจจะเรียกได้ว่าเป็นเกมเน้นเนื้อเรื่องที่เอา Open World มาเป็นองค์ประกอบเท่านั้น ส่วนระบบการต่อสู้ ถึงแม้ว่ามันจะเรียบง่ายไม่แตกต่างจากเกมอื่น แต่ตัวเกมก็ยังแอบยากในระดับหนึ่ง เพราะ A.I. เกมนี้จัดว่ายิงแม่นมากๆ นี่คือความท้าทายที่มีเสน่ห์ที่สุดของเกมนี้เลยก็ว่าได้ ถึงแม้เนื้อเรื่องจะเชิดชูให้ตัวละครเอกเราเก่งจัดการคนเป็นสิบได้  แต่พอเล่นจริง เราโดนศัตรูยิง 2-3 นัดก็ลงไปคุยกับรากมะม่วงได้อย่างง่ายดาย บวกกับการบังคับปืนหรือการช่วยเล็งที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับเราอีก ใครที่ยังเป็นมือใหม่สำหรับเกมแนวนี้ ก็อาจจะต้องตายกันหลายรอบหน่อย (เมื่อก่อนผู้เขียนก็เป็น) รวมถึงระบบขับรถที่หลายๆ คนยังพูดถึงมาจนทุกวันนี้ เพราะระบบฟิสิกส์มันแย่มากๆ ตัวรถมักจะเหวี่ยงไปมาในลักษณะที่ไม่เป็นธรรมชาติและคาดเดาลำบาก เวลาเจอภารกิจไล่ล่านี่ต้องมีหัวร้อนกันตลอด แต่ถ้าลองมองภาพให้กว้างขึ้น มันก็อาจจะสมเหตุสมผล เพราะว่าเกมนี้พยายามให้เราสัมผัสโลกในยุคปี 40 - 50 มากที่สุด การที่รถเหล่านี้ไม่สามารถซิ่งสะท้านฟ้าเหมือนรถยุคปัจจุบันก็อาจจะเป็นสิ่งที่ผู้พัฒนาตั้งใจเอาไว้อยู่แล้ว รวมถึงระบบจราจรที่ค่อนข้างน่าหงุดหงิด แต่อาจเรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ของเกมซีรีส์นี้เลยก็ว่าได้ โดยจะมีตำรวจคอยตรวจสอบความเร็วของรถเราตลอด ถ้าหากว่าเรานั้นขับรถเร็วเกิน 40 km/ชั่วโมง ผ่านหน้ารถตำรวจก็เตรียมตัวเจอไล่ได้เลยจ้า ถ้าตำรวจไล่ล่านานๆ พวกเขาก็จะสามารถจำป้ายทะเบียนรถได้อีก เราต้องเปลี่ยนรถหรือเข้าอู่เปลี่ยนป้ายทะเบียนเพื่อให้รอดสายตา ซึ่งตัวระบบนี้ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของซีรีส์ Mafia เลยก็ว่าได้ สรุป Mafia II: Definitive Edition สามารถปรับปรุงกราฟิกจากเวอร์ชั่น 2010 ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เฉดเงาต่างๆ ทำออกมาได้สวยงดสดงาม สิ่งที่ประทับใจที่สุดเลยก็คือปัญหารายลดละเอียดฉากไกลสุดมัวที่หายไป ทำให้เกมดูสบายตามากขึ้นกว่าเดิมเยอะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเรื่องรายละเอียดพื้นผิวของเกมก็ยังไม่ได้เปลี่ยนมากนัก ส่วนตัวคิดว่ามันทำการปรับปรุงกราฟิกออกมาได้มากที่สุดที่มันจะสามารถทำได้แล้วแหล่ะ ตัวเกมนำเสนอโลกของเมือง Empire Bay ที่จำลองบางส่วนมากจากแมนฮัตตัน และบรูคลินได้สวยงามมากขึ้น เราจะได้เห็นอเมริกาในยุค 40s และ 50s พร้อมทั้งสถานที่น่าสนใจอย่างตึก Empire State และสะพานบรูคลิน ทั้งการแต่งตัวของเราและ NPC ที่ให้ความรู้สึกแบบวินเทจ ซึ่งส่วนตัวอยากให้คนที่ไม่เคยได้สัมผัสเกมนี้ลองซักครั้ง ในส่วนของเนื้อเรื่องของเกมนั้นถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ลึกซึ้งกินใจเหมือนเกมชั้นนำ แต่มันก็สามารถนำเสนอเรื่องราวของมาเฟียออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เราจะได้เห็นทั้งมิตรภาพ, ความทุกข์, ความสุข, การแก้แค้น, โดนหลอก และหักหลัง ของสองเพื่อนซี๊อย่าง Vito Scaletta และ Joel Barbaro พร้อมยังนำเสนอสังคมอันดำมืดและผลประโยชน์ของโลกมาเฟียให้เราได้เห็นอีกด้วย แม้เอาเข้าจริงต้องยอมรับว่าเนื้อเรื่องมีความ "เดาได้" สำหรับแฟนของหนังมาเฟีย แต่ถ้าคุณเคยคิดว่าอยากจะลองเล่นหนังมาเฟียเรื่องโปรดของคุณในฐานะเกม นี่อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งในตอนนี้ เช่นเดียวกับเกมเพลย์ ที่ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ยอดเยี่ยมที่สุด ระบบเกือบทั้งหมดก็มีให้พบเห็นได้ทั่วไป แต่องค์ประกอบโดยรวมที่สอดคล้องกับเนื้อเรื่องมันเกื้อหนุนกัน และทำให้ Mafia II เป็นเกมที่น่าจดจำมากๆ ในปี 2010 และผู้เขียนยกให้มันเป็นเกม Mafia ภาคที่ดีที่สุดเลยทีเดียว [penci_review id="54170"]
19 May 2020